ความสำคัญของทำเกษตรอินทรีย์
ผู้คนในยุคนี้เป็นอย่างมากเลย เพราะการที่เรามีสุขภาพที่ดี การได้บริโภคหรือรับประทานอาหารที่ปลอดสารพิษมันก็ย่อมที่จะดีต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก อีกทั้ง มันก็ยังดีต่อผู้ที่ทำการเกษตรในลักษณะแบบนี้อีกด้วย ทำให้ชาวเกษตรกรไม่ต้องทนมานั่งดมพวกสารเคมี ที่อาจจะซึมเข้าร่างกายแล้วได้รับผลกระทบที่ตามมาก
ทำการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี
จะทำให้ดิน น้ำ อากาศและสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในบริเวณโดยรอบไม่มีสารพิษปนเปื้อน เลยทำให้ยุคนี้นั้นการเลือกทำการเกษตรแบบอินทรีย์ก็กำลังได้รับความสนใจกันเป็นอย่างมาก เลยทำให้หลายๆ คนได้ลองปรับเปลี่ยนพื้นที่ข้างบ้านหรือพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ก็ได้กลายมาเป็นแปลงผักอินทรีย์กันดู เพื่อที่จะได้ใช้บริโภคในครอบครัวที่สำคัญพืชผักเหล่านี้ก็จะไม่มีสารพิษตกค้างอีกด้วย
กระแสของการรักษาสุขภาพในปัจจุบัน
การดูแลสุขภาพและใส่ใจในสิ่งแวดล้อมก็ได้รับกระแสความนิยมกันเป็นอย่างมากเลย เลยทำให้การเลือก ทำการเกษตรไม่พึ่งยาหรือสารเคมี กลับได้รับความสนใจกันเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่เราไม่เลือกใช้ปุ๋ยเคมีในการทำการเกษตรมันก็จะส่งผลดีต่อระบบต่างๆ ในไร่ของเรา ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ อากาศเป็นประโยชน์ทำให้พืชผักต่างๆ สามารถที่จะเจริญเติบโตได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ
สำหรับการทำเกษตรแบบอินทรีย์
เป็นระบบการจัดการทำการเกษตรแบบที่เกื้อหนุนกัน โดยสามารถที่จะนำระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ที่จะเน้นใช้วิธีทางธรรมชาติเป็นหลัก ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้สารเคมีต่างๆ ทุกสิ่งที่อยู่ในไร่นั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ปลอดสารพิษอย่างแน่นอน
แนวทางการปฎิบัติของการทำเกษตรอินทรีย์
1. ไม่ใช้สารเคมีอะไรเลยในการผลิต
ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ยาเร่งการเจริญเติบโตของพืช โดยเราจะใช้พวกปุ๋ยอินทรีย์ และการดูแลที่ดีเป็นหลัก เพื่อให้ผลผลิตที่เราต้องการสามารถที่จะปลอดสารพิษได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์
2. จะช่วยฟื้นฟูและพัฒนาดินด้วยสิ่งที่เป็นธรรมชาติล้วนๆ
ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ รวมถึงการปลูกพืชหมุนเวียน มันก็จะสามารถทำให้ดินของเรามีสภาพที่สมบูรณ์และสามารถที่จะจัดเก็บสารอาหารไว้ได้อย่างครบถ้วนด้วย นอกจากนี้พืชผักที่เรานำมาปลูกนั้นก็จะต้องมีการเลือกเมล็ดที่มาจากการผลิตแบบอินทรีย์ด้วย
3. เวลาที่เราจะตัดหญ้าหรือไล่แมลง
เราไม่ต้องใช้พวกสารเคมีต่างๆ นะครับ โดยเราอาจจะเลือกใช้วิธีการตัดหญ้า ถอนหญ้า แทนเอาก็ได้ เพื่อเป็นการไม่ให้พืชผักของเราได้รับสารเคมีมากจนเกินไป นอกจากนี้ถ้าเรามองว่าแปลงผักของเรามีแมลงที่เยอะ ก็อาจจะหาผักที่มีกลิ่นฉุนมาปลูกก็ได้เช่นกัน หรืออาจจะมีการเลือกใช้พวกน้ำหมักชีวิภาพ ต่างๆ เหล่านี้มาปรับใช้ในสวนของเราทำให้สวนของเราสามารถปลอดสารเคมีได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ และถ้าเราจะป้องกันสารพิษจากภายในอากาศหรือระแวงใกล้เคียง เราก็อาจจะหาพวกไม้ยืนต้น มาปลูกไว้เป็นแนวไร่ของเราก็ได้หรืออาจจะมีการขุดบ่อน้ำ ก็ได้เช่นกัน
4. วัสดุที่เรานำมาใช้ในไร่ต้องเลือกเป็นวัสดุที่มันสามารถย่อยสลายได้
ตามธรรมชาติ หรือ อาจจะเป็นพวกวัสดุที่นำกลับมาใช้ได้ใหม่ เพื่อเป็นการลดปัญหามลพิษต่างๆ และยังสามารถช่วยลดภาวะโลกร้อยในทุกวันนี้ได้อีกด้วย เช่น อาจจะเลือกใช้ตะกร้าจากไม้ไผ่ เป็นต้น
การทำเกษตรอินทรีย์
จะมีประโยชน์อย่างมากมาย แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะผู้ที่คิดจะเริ่มทำเกษตรแบบอินทรีย์ ยังขาดความรู้และความเข้าใจในการบริการให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ปุ๋ย การดูแลพืชทุกชนิด ระบบการจัดการต่างๆ และหน่วยงานภาครัฐในบ้านเรานั้นก็ยังดูเหมือนไม่ค่อยจะสนับสนุนสักเท่าไร เลยทำให้ความสำคัญของการทำการเกษตรอินทรีย์ไม่ค่อยจะมีความสมบูรณ์มากนัก
ยกตัวอย่างเช่น : ในประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญกับการทำการเกษตรแบบอินทรีย์กันเป็นอย่างมากเลย ซึ่งหน่วงงานของทางรัฐบาลก็ได้ออกมาสนับสนุนกันอย่างเต็มที่ เพื่อที่ผลผลิต ก็จะได้สามารถออกมาดี มีคุณภาพ ที่สำคัญมันยังสามารถที่จะปลอดสารพิษได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อีกด้วย ทำให้ผู้คนที่ได้เลือกซื้อไปรับประทานก็มั่นใจได้เลยว่าสารพิษต่างๆ ก็จะไม่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราอย่างแน่นอน ฉะนั้น
ในประเทศไทยหน่วยงานทางภาครัฐให้การสนับสนุนกันอย่างจริงจังผมเชื่อนะครับว่า แทบจะทั้งประเทศก็จะให้ความสำคัญกับการทำการเกษตรแบบอินทรีย์กันอย่างแน่นอน ทุกวันนี้ ก็ยังได้รับความนิยมอยู่เหมือนกัน แต่อาจจะไม่ทั้งประเทศแค่นั่นเอง ถ้าหากมันสามารถที่จะจัดการกันได้รับประกันได้เลยว่าชาวไทยทุกคนก็จะได้รับประทานผลผลิตที่ปลอดสารเคมี และที่สำคัญสุขภาพร่างกายของเราก็จะดีตามไปอีกด้วย